วิธีกำจัดขนรักแร้! กำจัดแบบไหนไม่ให้เป็นหนังไก่
เวลาเราถอนขนรักแร้ด้วยแหนบมักเจอปัญหาหนังไก่ ซึ่งทำให้สูญเสียความมั่นใจในการยกแขน จะมีวิธีใดบ้างฝยกสนกำขัดขนโดยไม่เกิดหนังไก่

แม้ว่าขนรักแร้ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็เป็นปัญหากวนใจของใครหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความมั่นใจเมื่อใส่เสื้อแขนกุดหรือชุดที่เผยให้เห็นผิวใต้วงแขน หลายคนเลือกวิธีกำจัดขนรักแร้ด้วยตัวเอง เช่น การโกน ถอน หรือใช้ครีม
แต่บางครั้งการกำจัดขนรักแร้เองกลับทำให้เกิด “หนังไก่” หรือผิวใต้วงแขนไม่เรียบเนียน ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจแล้ว ยังยากต่อการแต่งตัวและอาจเกิดการระคายเคืองได้ ใครที่กำลังมองหาวิธีกำจัดขนรักแร้แบบเนียนๆ ไม่เป็นหนังไก่ ในบทความนี้มีคำตอบ
สาเหตุของหนังไก่ หลังการกำจัดขนรักแร้
หลายคนอาจเข้าใจว่าหนังไก่ที่เกิดขึ้นหลังจากกำจัดขนรักแร้ มีสาเหตุมาจากรูขุมขนที่กว้างกว่าปกติ แต่แท้จริงแล้วมีหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่
- การโกนขนด้วยใบมีดซ้ำๆ ทำให้เกิดการเสียดสีและอักเสบใต้ผิว
- การถอนขนด้วยแหนบหรือเครื่องถอน ซึ่งดึงรากขนออกและอาจทำให้รูขุมขนอักเสบ
- การใช้ครีมกำจัดขนที่มีสารเคมีแรง ทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง
- การเสียดสีจากเสื้อผ้าหรือเหงื่อสะสม ทำให้ผิวหนาและหมองคล้ำมากขึ้น
เมื่อผิวใต้วงแขนเกิดการอักเสบซ้ำๆ จะกระตุ้นให้ผิวหนาขึ้นและเกิดลักษณะคล้ายหนังไก่ จึงควรเลือกวิธีการกำจัดขนที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อผิว
5 วิธีการกำจัดขนรักแร้
การกำจัดขนรักแร้สามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสะดวกของแต่ละคน ซึ่งวิธีกำจัดขนรักแร้ส่วนใหญ่แล้วจะทำด้วย 5 วิธีต่อไปนี้ โดยแต่ละวิธีจะมีข้อควรพิจารณาต่างกัน ดังนี้
1. โกนขนรักแร้
วิธีที่ทำได้ง่ายและประหยัดเวลา แต่ข้อเสียคือขนใหม่จะขึ้นเร็ว และหากโกนผิดวิธีอาจทำให้ผิวเกิดรอยแดงหรือเป็นหนังไก่ได้ ควรใช้มีดโกนที่สะอาดและเปลี่ยนใบมีดบ่อยๆ รวมถึงใช้ครีมหรือโฟมช่วยลดการเสียดสี
2. ถอนขนรักแร้
การถอนขนรักแร้มีข้อดีคือช่วยให้ขนขึ้นช้ากว่าวิธีโกน เพราะเป็นการดึงรากขนออก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงต่อการอักเสบและเกิดขนคุด และเมื่อถอนขนบ่อย ผิวจะหนาและเป็นตุ่มเล็กๆ รวมถึงการอักเสบได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง
3. ครีมกำจัดขน
ครีมกำจัดขนจะช่วยละลายเส้นขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนหลังใช้ทันที แต่ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ เพราะบางสูตรอาจมีสารเคมีที่ทำให้ผิวแสบหรือคล้ำได้
4. แว็กซ์ขนรักแร้
วิธีที่ใช้การดึงขนออกทั้งรากคล้ายการถอน แต่สามารถกำจัดขนได้ในพื้นที่กว้างมากกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3–4 สัปดาห์ แต่การดึงขนรักแร้ออกพร้อมกันหลายเส้นอาจทำให้ผิวระคายเคือง เกิดขนคุดและหนังไก่ได้หากทำไม่ถูกวิธี
5. เลเซอร์กำจัดขนรักแร้
วิธีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถกำจัดขนได้อย่างถาวรในระยะยาว เครื่องเลเซอร์จะยิงพลังงานเข้าสู่รากขน ทำให้ขนเสื่อมและหลุดร่วงตามวงจร โดยไม่ทำร้ายผิวรอบข้าง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว ผิวเรียบเนียน และลดปัญหาหนังไก่ได้อย่างเห็นผล
ข้อดีของการทำเลเซอร์กำจัดขนรักแร้
- ขนขึ้นใหม่ช้าลงและบางลงเรื่อยๆ
- ลดการเกิดขนคุดและรูขุมขนอักเสบ
- ผิวใต้วงแขนกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยลดกลิ่นเหงื่อ เพราะรูขุมขนเล็กลง
- ไม่ต้องเสียเวลาถอนหรือโกนซ้ำบ่อยๆ
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กำจัดขนรักแร้
- งดถอนหรือแว็กซ์ขนรักแร้ก่อนทำเลเซอร์ประมาณ 2 สัปดาห์
- โกนขนให้สั้นประมาณ 1 วันก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้เลเซอร์เข้าถึงรากขนได้ตรงจุด
- หลีกเลี่ยงการทาครีมระงับกลิ่นหรือโลชั่นก่อนทำเลเซอร์
- แจ้งแพทย์หากมีโรคผิวหนังบริเวณใต้วงแขนหรือผิวไวต่อแสง
การดูแลหลังทำเลเซอร์กำจัดขนรักแร้
- หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
- ประคบเย็นเพื่อลดอาการระคายเคืองหากรู้สึกแสบเล็กน้อย
- ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์หรือว่านหางจระเข้
การทำเลเซอร์ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้เครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เพื่อควบคุมระดับพลังงานให้เหมาะกับสีผิวและความหนาของขนได้อย่างแม่นยำ พร้อมผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว
หากคุณกำลังมองหาวิธี กำจัดขนรักแร้ ที่ได้ผลและปลอดภัย ที่ Dr. Ni Clinic พร้อมให้บริการเลเซอร์กำจัดขนด้วยเครื่องมาตรฐานระดับสากล ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางในทุกขั้นตอน ช่วยให้ผิวใต้วงแขนเรียบเนียน ไม่ระคายเคือง และลดปัญหาหนังไก่ได้อย่างเห็นผลในระยะยาว