ทำให้ผิวกระจ่างใสด้วยวิธีธรรมชาติ มีอะไรบ้าง และช่วยได้ผลจริงหรือไม่ ?
การดูแลผิวมีหลายวิธี แต่มีวิธีดูแลผิวง่ายๆด้วยวธีการธรรมชาติที่หลายคนอาจใช้แล้วเห็นผล ทั้งนี้จะมีวิธีใดบ้าง และวิธีเหล่านี้ช่วยได้จริงหรือไม่ มาชมไปพร้อมกันเลย

ผิวกระจ่างใส คือ สิ่งที่ใครหลายๆคนต้องการ โดยการทำให้ผิวหน้าของเราดูสุขภาพดี ย่อมก่อให้เกิดความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเทคโนโลยีเสริมความงามมากมาย แต่การดูแลผิวให้สว่างกระจ่างใสด้วยวิธีธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกสบาย ประหยัดงบในการดูแลผิว และสามารถทำได้ด้วยตัวเองสม่ำเสมอ จะมีวิธีไหนบ้างลองมาดูกันเลย
วิธีการทำให้ผิวกระจ่างใสด้วยวิธีการธรรมชาติ มีวิธีใดบ้าง ?
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
น้ำมีบทบาทสำคัญในการช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว การดื่มน้ำให้เหมาะสมและเพียงพอต่อวัน จึงมีส่วนช่วยให้ผิวของเรากระจ่างใสขึ้น โดยควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ผิวดูอิ่มน้ำและสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
2. ทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่เราทานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผิวของเรา จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์และมีสารอาหารที่ดีให้แก่ร่างกายจากภายในสู่ภายนอก เน้นรับประทานผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี อี และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น
- ส้ม ฝรั่ง และมะนาว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- แครอทและมะเขือเทศ มีเบต้าแคโรทีนช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี
- อะโวคาโดและถั่วอัลมอนด์ อุดมไปด้วยไขมันดี ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น
3. นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับเป็นอีกหนึ่งวิธีการง่ายๆ ที่มีผลโดยตรงต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว โดยการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอย่อมส่งผลให้ร่างกายทำงานหนักยิ่งขึ้น การดูแลรักษาและฟื้นฟูผิวอาจทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือการนอนดึกจนเกินไปอาจส่งผลร่วมด้วย ดังนั้น ควรนอนอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อลดความหมองคล้ำและช่วยทำให้ผิวดูสดใส
4. ขัดผิวอย่างสม่ำเสมอ
การขัดผิวช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น ทั้งนี้ควรขัดผิวสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรขัดผิวหรือสครับผิวในทุกๆวัน เพราะอาจเกิดปัญหาต่อผิวหนังและแบคทีเรียชนิดดีในผิวเราได้ โดยวิธีการสครับผิวจากธรรมชาติ สามารถทำได้ด้วยสิ่งเหล่านี้ เช่น
- น้ำตาล + น้ำผึ้ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น
- ข้าวโอ๊ต + โยเกิร์ต ช่วยลดการอักเสบและบำรุงผิวให้กระจ่างใส
- การสครับผิวจากมะขามก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือใครมีงบเพิ่มขึ้นก็สามารถเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับการสครับผิวโดยเฉพาะแทนย่อมได้เช่นเดียวกัน
5. การทาครีมกันแดดทุกวัน
รังสียูวีเป็นตัวการหลักที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ การปกป้องผิวจากรังสียูวีเป็นสิ่งสำคัญ โดยผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันยูวีอย่างครีมกันแดดย่อมเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย เราจึงควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ แม้อยู่ในที่ร่มมากกว่ากลางแจ้งก็ตาม เพื่อปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยรังสียูวีและแสงแดดในแต่ละวัน
6. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติ
เลือกใช้เซรั่มหรือครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น
- ว่านหางจระเข้ ช่วยลดรอยแดงและเพิ่มความชุ่มชื้น
- น้ำมันมะพร้าว ช่วยให้ผิวนุ่มและมีประกาย
- วิตามินซี ช่วยลดจุดด่างดำและเพิ่มความกระจ่างใส
7. ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อฟื้นฟูผิว
แม้ว่าการดูแลผิวด้วยวิธีธรรมชาติจะช่วยให้ผิวดีขึ้น แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งที่ Dr. Ni Clinic มีบริการที่ช่วยให้ ผิวกระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น
- เลเซอร์หน้าใส ช่วยลดเม็ดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ทรีทเมนต์วิตามินผิว เติมสารอาหารที่จำเป็นให้ผิวดูสดใสจากภายใน
- เมโสหน้าใส บำรุงผิวอย่างล้ำลึกเพื่อผิวที่เรียบเนียนและเปล่งประกาย
และนี่คือวิธีดูแลผิวโดยธรรมชาติที่ Dr.ni clinic ได้หาข้อมูลมาให้แล้ว ซึ่งการดูแลผิวให้กระจ่างใสสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการดูแลจากภายใน เช่น การดื่มน้ำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการพักผ่อนที่เพียงพอ รวมถึงการบำรุงจากภายนอก เช่น การขัดผิว ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และทาครีมกันแดด ได้ตามที่กล่าวมาข้างต้น
แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลชัดเจน รักษาปัญหาผิวให้กลับมาสวยกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ Dr. Ni Clinic ซึ่งเป็นคลินิกด้านความงามที่มีมาตรฐาน และให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์เช่นกัน