รอยสัก สักผิว สักคิ้ว เป็นอย่างไร ? หากต้องการลบรอยสักทำอย่างไรได้บ้าง

รอยสัก สักผิว สักคิ้ว เป็นอย่างไร ? หากต้องการลบรอยสักสามารถทำได้อย่างไร

รอยสัก ไม่ใช่แค่แฟชั่นหรือศิลปะบนร่างกาย แต่ยังสะท้อนถึงตัวตน ความทรงจำ หรือวัตถุประสงค์ทางความงาม เช่น การ สักคิ้ว เพื่อแก้ไขรูปทรง หรือการสักผิวเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจเปลี่ยนใจภายหลัง หลายคนจึงเริ่มสนใจที่จะลบรอยสักออก แต่ไม่แน่ใจว่าควรลบที่ไหน เจ็บหรือไม่ และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับรอยสักให้มากขึ้น รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการลบรอยสักอย่างปลอดภัย

รอยสักคืออะไร ?

รอยสัก (Tattoo) คือ การฝังหมึกสีลงใต้ผิวหนัง โดยใช้เข็มเจาะลงไปยังชั้น Dermis ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังแท้ โดยหมึกที่ฝังอยู่ในผิวหนังชั้นนี้จะติดคงทนถาวร ต่างจากการเขียนหรือการระบายสีบนผิวหนังชั้นนอกที่หลุดออกได้ง่าย แม้ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด แต่หลายคนก็เลือกที่จะเก็บเรื่องราวหรืองานศิลปะเอาไว้บนร่างกายผ่านรอยสักบนผิวหนังกัน

ประเภทของรอยสัก

รอยสักนั้นแบ่งออกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับการเลือกสักของแต่ละบุคคล โดยมีรายละเอียดความแตกต่าง ดังนี้

• รอยสักถาวร (Permanent Tattoo) : รอยสักบนผิวหนังที่ใช้หมึกแท้สักลงลึกในชั้นหนังแท้ ติดทนนานหลายปีหรือตลอดชีวิต

• รอยสักกึ่งถาวร (Semi-Permanent Tattoo) : มักใช้ในงานสักคิ้ว สักขอบตา สักปาก อยู่ได้ประมาณ 1–3 ปี แล้วค่อย ๆ จางลง

• รอยสักเพื่อการแพทย์ (Medical Tattooing) : เช่น การสักเพื่อปกปิดแผลเป็น การสักหัวนมเทียมหลังผ่าตัดเต้านม หรือแม้แต่การสักเพื่อการบำบัดทางจิตใจ

การสักคิ้วคืออะไร ต่างจากการสักทั่วไปอย่างไร ?

การสักคิ้ว เป็นการฝังเม็ดสีลงบนชั้นผิวหนังที่ตื้นกว่าการสักทั่วไป โดยเน้นการวาดเส้นขนเลียนแบบธรรมชาติ เพื่อให้คิ้วดูเต็มและเป็นรูปทรงที่สวยงาม โดยการสักคิ้วไม่ใช่การสักแบบถาวร แต่จะค่อยๆ จางลงตามเวลาและสามารถเติมสีซ้ำได้

วิธีการลบรอยสักมีกี่วิธี

แม้ว่ารอยสักจะเคยสวยงาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสวยงามนั้นอาจกลายเป็นเรื่องเล่าที่อยากลบเลือน ทำให้หลายคนตัดสินใจลบรอยสัก ซึ่งปัจจุบันการลบรอยสักนิยมทำผ่าน 2 วิธี ต่อไปนี้ 

1. การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ (Laser Tattoo Removal)

วิธีที่ได้รับความนิยมและปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน โดยใช้ เลเซอร์ชนิด Q-switched หรือ Picosecond ยิงลงไปยังหมึกที่อยู่ในชั้นผิวหนัง หมึกจะดูดพลังงานและแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนถูกระบบของร่างกายกำจัดออกไปตามธรรมชาติ

ข้อดี

• ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด

• เห็นผลในหลายเฉดสี (โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่อย่าง Picosecond)

• ไม่ทำลายผิวรอบข้างมากเท่าเลเซอร์ยุคเก่า

ข้อจำกัด:

• ต้องทำซ้ำหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับสี ความลึก และปริมาณหมึก

• อาจมีอาการแสบ แดง หรือผิวตกสะเก็ดหลังทำ

2. การผ่าตัดลบรอยสัก

วิธีลบรอยสักที่แพทย์ส่วนใหญ่พิจารณาใช้ในกรณีรอยสักขนาดเล็กเท่านั้น โดยการตัดเนื้อผิวหนังบริเวณที่มีรอยสักออก แล้วเย็บปิดแผล ข้อดีของวิธีนี้คือสามารถลบรอยสักได้ทันที แม้จะต้องแลกกับการเกิดรอยแผลเป็นในบางกรณี

คำแนะนำก่อนตัดสินใจลบรอยสัก

• ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือเลเซอร์โดยตรง

• ควรทำในคลินิกที่มีเครื่องมือได้มาตรฐานและมีใบอนุญาต

• หลีกเลี่ยงแสงแดดก่อนและหลังการทำเลเซอร์

• งดการขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

ลบรอยสักที่ไหนดี? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผล

Dr.Ni Clinic ให้บริการลบรอยสักด้วยเครื่องเลเซอร์คุณภาพสูงมาตรฐานทางการแพทย์ โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ตรง พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน ทั้งการ ลบรอยสักทั่วไป และการลบรอยสักคิ้ว ใช้เลเซอร์ Picosecond ที่เห็นผลไวกว่า Q-switch ประเมินผลโดยแพทย์ก่อนเริ่มรักษา เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน พร้อมรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เพื่อช่วยในการตัดสินใจเพื่อประกอบการตัดสินใจ

หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่ไว้ใจได้และมีทีมแพทย์ดูแลอย่างมืออาชีพ Dr.Ni Clinic พร้อมให้บริการลบรอยสักทุกประเภทอย่างปลอดภัยและเห็นผลจริง